Social Media Share

 

 

ยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมว

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยเดินหน้ากวาดล้างธุรกิจค้าเนื้อสุนัขและแมวในเอเชียมากว่า 11 ปี เราต้องการยุติความทารุณกรรมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นเช่นเดียวกับวันแรกของการเริ่มโครงการ

ด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้สนับสนุนมูลนิธิฯ จากทั่วทุกมุมโลก ช่วงเวลาสองปีท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมาเราได้ร่วมมือกับองค์กรที่ต่อต้านการค้าเนื้อสุนัขในประเทศกัมพูชาและเกาหลีใต้ และยังคงเดินหน้าต่อสำหรับการกดดันรัฐบาลในประเทศเวียดนาม

วันนี้หลังจากที่มาตรการเพื่อป้องกันโรคระบาดได้สิ้นสุดลง มูลนิธิฯ จึงได้เริ่มปฏิบัติการเดินหน้าโครงการยุติการค้าเนื้อที่โหดร้ายทารุณทั่วภูมิภาคเอเชียอีกครั้ง ด้วยการร่วมมือกับ Animal Kingdom Foundation (AKF) เพื่อยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวในประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติกิจการอันโหดร้ายนี้ในทุกพื้นที่ในโลก

 

โปรดร่วมมือกับเราเพื่อยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวในประเทศฟิลิปปินส์

เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกไร้สิ้นหนทางเมื่ออยู่ท่ามกลางความทารุณและความทุกข์ทรมาน แต่คุณสามารถร่วมมือกับเราได้ด้วยการร่วมลงนามในจดหมายปิดผนึกเพื่อส่งต่อให้กับรัฐบาลของประเทศฟิลิปปินส์เพื่อเรียกร้องให้พวกเขาจริงจังกับการยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวในประเทศลงอย่างสิ้นเชิงถาวร และให้กฎหมายที่มีอยู่ได้นำมาบังคับใช้และลงโทษผู้กระทำผิด ขณะนี้สุนัขกว่าแสนตัวยังคงถูกขนส่งและนำไปชำแหล่ะผ่านธุรกิจใต้ดินที่อำมหิต

ด้วยการสนับสนุนจากคุณ เราจึงสามารถกดดันให้รัฐบาลดำเนินการยุติความรุนแรงเหล่านี้ลงได้

เราเคยสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการลงนามในกฎหมายมาแล้ว และครั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งที่เราทุกคนได้ร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือสุนัขและแมวไร้เดียงสา ยิ่งเพิ่มแรงกดดันทางสังคมให้กระทบถึงผู้มีอำนาจมากเท่าไหร่ โอกาสที่สุนัขและแมวจะได้มีชีวิตอย่างปลอดภัยก็มากขึ้นเท่านั้น หนึ่งเสียงจากคุณจึงมีพลังอย่างมาก โปรดร่วมมือกับเราวันนี้

ร่วมลงนามในจดหมายปิดผนึกถึงรัฐบาลฟิลิิปปินส์ได้ ที่นี่ 

 

 

Dogs rescued from the dog meat trade

 

เกี่ยวกับธุรกิจค้าเนื้อสุนัขและแมวในทวีปเอเชีย

ธุรกิจค้าเนื้อสุนัขเป็นหนึ่งในปัญหาที่รุนแรงที่สุดด้านสวัสดิภาพสัตว์ในทวีปเอเชีย ซึ่งมูลนิธิฯ กำลังดำเนินการในหลายประเทศเพื่อหยุดยั้งกิจการที่ป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรมนี้

เนื้อสุนัขเพื่อการบริโภคสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในทวีปเอเชีย ภูมิภาคที่สวัสดิภาพสัตว์แทบจะไม่ได้รับการเหลียวแล จากข้อมูลที่สุนัขจำนวนมากถูกขโมยจากบ้าน จากเจ้าของ หรือถูกจับมาจากข้างถนน รวมทั้งมีแหล่งเพาะฟาร์มสุนัขเพื่อค้าเนื้ออีกด้วย สัตว์เหล่านี้ถูกขนย้ายเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อถูกชำแหละอย่างโหดเหี้ยมเพียงเพื่อไปเป็นอาหาร

สภาพที่สุนัขอยู่ในฟาร์มเพาะเลี้ยง การขนส่งเดินทางที่แออัดและในที่สุดต้องถูกชำแหละ ล้วนแต่รุนแรงป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม สุนัขเหล่านี้ไม่ได้ถูกฆ่าอย่างสัตว์บริโภค พวกเขาส่วนมากจะถูกทารุณนับเป็นชั่วโมงก่อนที่จะถูกถลกหนังทั้งเป็น เหตุผลเพียงเพราะมนุษย์กลุ่มนั้นเชื่อว่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในขณะนั้นจะทำให้เนื้อสุนัขเกิดความอ่อนนุ่ม อร่อยขึ้น และที่เหี้ยมโหดที่สุดคือ สุนัขบางตัวยังไม่สิ้นใจด้วยซ้ำในขณะที่ขนและหนังบนร่างถูกถลกออกทั้งเป็น

Rescued dog from the dog meat trade being thankful for his rescue

ประเทศไทย

มูลนิธิฯ ได้ต่อสู้จนประสบความสำเร็จในการยุติธุรกิจการค้าเนื้อในประเทศไทย และกำลังเดินหน้าต่อในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งการค้าเนื้อสุนัขยังไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลจากเจ้าหน้าที่รัฐนัก  ในประเทศไทยนั้นยังมีการจัดตั้งทีมเฉพาะกิจสอบสวนที่ยังคงเฝ้าระวังอยู่หากพบเห็นธุรกิจที่เข้าข่ายว่าจะเป็นการค้าเนื้อสุนัข และมูลนิธิฯ ยังรับดูแลสุนัขที่ได้รับการช่วยชีวิตจากการค้าเนื้อสุนัขโดยมีเป้าหมายสูงสุดที่จะหาบ้านใหม่อันอบอุ่นถาวรให้กับพวกเขา

เวียดนาม

ในประเทศเวียดนาม คาดการณ์ว่ามีสุนัขกว่า 5 ล้านตัวที่ถูกชำแหละในแต่ละปีเพื่อการบริโภค ซึ่งมูลนิธิฯ กำลังร่วมกับรัฐบาลเวียดนามและสถานีโทรทัศน์ของเวียดนาม และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ระดับประเทศ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกแก่สาธารณะเรื่องความโหดเหี้ยมของธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขและพิษภัยจากการบริโภคเนื้อสุนัข รวมไปถึงความร่วมมือระดับประเทศกับรัฐบาลและหน่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศเวียดนามในการเพิ่มอำนาจด้านกฎหมายเพื่อยุติธุรกิจนี้

รัฐบาลเวียดนามได้ทำการสุ่มทดสอบสุนัขหลายร้อยตัวในโรงเชือดและได้ทราบผลจากหน่วยป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (US CDC) พบว่าสุนัขมากกว่า 3% มีผลทดสอบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าเป็นบวก ซึ่งทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขและผู้บริโภคมีความเสี่ยง  

มูลนิธิฯ ยังร่วมมือกับฝ่ายควบคุมโรคระบาดสัตว์ของเวียดนาม (Department of Animal Health) ในการสำรวจโรงเชือดและร้านอาหารที่มีเมนูจากเนื้อสุนัขเพื่อรวบรวมหลักฐานและข้อมูลในการสนับสนุนการกวาดล้างธุรกิจดังกล่าวด้วยเหตุผลด้านความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน

ในเดือนกันยายน พ.ศ.2561 จังหวัดฮานอยได้ประกาศว่าฮานอยจะแบนการค้าเนื้อสุนัขในเมืองทั้งหมดภายในปีพ.ศ. 2564 และมูลนิธิฯ ยังได้ดำเนินการต่อด้วยการส่งคำร้องไปที่การแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ซึ่งเป็นการแข่งขันรถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของโลกซึ่งมีแผนการจัดการแข่งขันที่กรุงฮานอย โดยมูลนิธิฯ มุ่งหวังว่าฟอร์มูล่าวันจะสามารถใช้ฐานความนิยมจากผู้ที่ติดตามการแข่งขันในการรณรงค์ให้ยุติการค้าเนื้อสุนัขอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้เรายังได้ส่งคำร้องไปยังรัฐบาลเวียดนามโดยตรง ซึ่งคุณสามารถร่วมลงชื่อในคำร้องนี้ได้ ที่นี่

ในเดือนกันยายน พ.ศ.2565 มูลนิธิฯ ได้จัดตั้งกลุ่มการทำงานเพื่อเดินหน้ายุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวโดยมุ่งเป้าไปที่การควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าเป็นหลัก ร่วมด้วยฝ่ายควบคุมโรคระบาดสัตว์ของเวียดนาม กลุ่มความร่วมมือภูมิภาคฮานอย และ Global Alliance for Rabies Control (GARC) 

กัมพูชา

ในกัมพูชา เราได้สนับสนุนแคมเปญที่ตีแผ่ความจริงอันโหดร้ายและเดินหน้าให้เกิดการยุติการค้าเนื้อสุนัขที่นั่น  ด้วยการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ  หน่วยงานในท้องที่ 'End Dog Meat Trade Cambodia' จึงสามารถรณรงค์ในแคมเปญออนไลน์เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับความทารุณกรรมในธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขนี้ และยังเดินหน้ารวบรวมข้อมูลร่วมกับหน่วยงานอิสระหลายแห่งในการสำรวจร้านอาหารที่มีเมนูจากเนื้อสุนัข โรงเชือด และธุรกิจรายย่อยที่เกี่ยวข้องในกัมพูชา  ในที่สุด ปีพ.ศ. 2563  เมืองเสียมราฐได้ประกาศยุติการค้าเนื้อสุนัข เป็นการยืนยันว่าการทำงานของมูลนิธิฯ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรได้เดินมาถูกทิศทางแล้ว  

 

ฟิลิปปินส์

กฎหมายห้ามกระทำและลงโทษผู้ค้าเนื้อสุนัขและแมวในฟิลิปปินส์ประกาศใช้ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2541 ในกฎหมายสวัสดิภาพสัตว์เพื่อยุติความทารุณ การปฏิบัติต่อสัตว์อย่างโหดร้าย การทิ้งสัตว์เลี้ยงและการฆ่าสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์เพื่อการบริโภค ในกฎหมายฉบับนี้ได้ระบุชัดเจนว่าการค้าเนื้อสุนัขเป็นการทารุณกรรม ซึ่งผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษทางกฎหมาย

ในกฎหมายเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัชบ้าในปี พ.ศ. 2550 ยิ่งระบุชี้ชัด ความว่า “หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสามารถลงโทษผู้ดำเนินการค้าเนื้อสุนัข” และยังได้รวมถึงบทลงโทษที่เพิ่มขึ้น ความว่า “บุคคลใดที่กระทำการค้าสุนัขโดยมุ่งหวังเนื้อสุนัขเพื่อการบริโภค ต้องถูกปรับไม่ต่ำกว่า 5,000 เปโซฟิลิปปินส์ต่อสุนัข 1 ตัว หรือถูกจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือทั้งจำและปรับ”

อย่างไรก็ตาม มีสุนัขไร้เดียงสาราว ๆ 200,000 ตัวที่ตกเป็นเหยื่อในกระบวนการผิดกฎหมายที่แสนทารุณซึ่งยังคงเกิดขึ้น เมืองที่ยังคงพบการค้าเนื้อสุนัขจำนวนมากได้แก่ ลูซอน วิซายัสและมินดาเนา

ในปี พ.ศ. 2565 มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้ร่วมมือกับ Animal Kingdom Foundation (AKF) หน่วยงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์เพื่อเดินหน้ายุติการค้าเนื้อสุนัขที่นั่น ทั้งสององค์กรได้ร่วมมือกันเพื่อกวาดล้างธุรกิจผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ได้ถูกติดตั้งที่ใจกลางคาบานาตวน ศูนย์กลางเมืองลูซอน และมูลนิธิฯ มีแผนการที่จะติดตั้งป้ายทั่วประเทศ

Soi Dog Billboard

จีน

ในประเทศจีน มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้สนับสนุนทุนแก่นักเคลื่อนไหวที่ปฏิบัติงานลงพื้นที่ช่วยเหลือ รักษาและดูแลสุนัขกว่าร้อยตัวที่ได้รับการช่วยเหลือจากการค้าเนื้อสุนัขภายในประเทศและจากเทศกาลบริโภคเนื้อสุนัขยูลิน

สถานการณ์ในประเทศจีนซับซ้อนและยากต่อการวางแผนงานเป็นอย่างมาก รัฐบาลได้นำสุนัขออกจากรายชื่อสัตว์ปศุสัตว์ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 การจำหน่ายสุนัขและแมวเพื่อการบริโภคจึงผิดกฎหมาย (แมวไม่เคยอยู่ในรายการสัตว์ปศุสัตว์) อย่างไรก็ตามการบริโภคเนื้อสุนัขและแมวไม่ผิดกฎหมาย ดังนั้นหากคุณฆ่าสุนัขของคุณ คุณสามารถกินเนื้อสุนัขตัวดังกล่าวได้ แต่คุณไม่สามารถขายเนื้อสุนัขให้แก่ผู้อื่น

หน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่นกดดันให้เจ้าหน้าที่และผู้มีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับปัญหานี้ อย่างไรก็ตามโครงการหรือแคมเปญใดใดก็ตามที่รณรงค์โดยหน่วยงานจากต่างชาติจะไม่ได้รับการสนใจและไม่สามารถนำเสนอต่อรัฐบาลเนื่องด้วยเหตุผลด้านการรักษาความมั่นคงของชาติ และการใดใดก็ตามที่ทำให้ประชาชนอาจเกิดการลุกฮือจะไม่เป็นผลดีในการปกครอง

ไต้หวัน

มูลนิธิฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศยุติการบริโภคเนื้อสุนัขแล้ว  โดยรัฐมนตรีอาวุโสของไต้หวันและนาย Genlin (คุณฮิโรชิ โฮริเกะ) ผู้ก่อตั้ง World Dog Alliance ยังได้เยี่ยมชมการทำงานของมูลนิธิฯ อีกด้วย

เกาหลีใต้

เป็นเวลาหลายปีที่มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนการทำงานของหน่วยงานในท้องถิ่นในประเทศเกาหลีใต้และได้ร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของรัฐบาลในการออกกฎหมายเพื่อยุติอุตสาหกรรมค้าเนื้อสุนัข โดยรัฐสภาเกาหลีใต้ได้มีมติผ่านกฎหมายฉบับใหม่ในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2567 เพื่อยุติการค้าเนื้อสุนัขทั่วประเทศ มีผลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2570 เป็นต้นไป นับเป็นก้าวครั้งสำคัญของการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการกินเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้ที่ดำเนินมากว่าศตวรรษ และก้าวสู่ยุคใหม่ของสังคมที่ส่งเสริมและให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์

มูลนิธิฯ ได้ติดตั้งป้ายบิลบอร์ดและป้ายโฆษณาขนาดใหญ่สองข้างทางระหว่างถนนที่เชื่อมไปยังตลาดค้าเนื้อสุนัข  ซึ่งนำไปสู่การต่อต้านโรงชำแหละสุนัขในเมืองหลวงอย่างกรุงโซล รวมถึงตลาดโมรัน ตลาดดั้งเดิมใจกลางเมืองที่มีการค้าเนื้อสุนัข  มูลนิธิฯ ยังได้สนับสนุนการบุกช่วยเหลือสุนัขกว่า 100 ตัวที่ถูกทอดทิ้ง ในปี พ.ศ. 2564 เราได้ร่วมมือกับ Animal Rescue Korea (ARK119) เพื่อสนับสนุนการกวาดล้างและปิดดำเนินการฟาร์มเพาะเนื้อสุนัขในเมืองบุนชอน และหาบ้านใหม่ให้แก่สุนัขที่ได้รับการช่วยเหลือ

‘สุนัขทุกตัวคือสุนัขเหมืือนกัน’ คือใจความหลักที่มูลนิธิฯ ใช้ในการรณรงค์ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการตั้งคำถามกับความเชื่อเดิมที่ว่าเนื้อสุนัขทั่วไปแตกต่างจากสุนัขที่เป็นสัตว์เลี้ยง ชาวเกาหลีใต้หลายคนยังคงเชื่อว่า สุนัขที่นำมาชำแหละไม่มีจิตวิญญาณ ไม่มีความรู้สึก เฉกเช่นเดียวกับสุนัขที่เลี้ยงดูในบ้าน 

ด้วยการเปลี่ยนกระแสความคิดเห็นของสาธารณชนให้หันมาต่อต้านการบริโภคและการเพาะพันธุ์เนื้อสุนัข รวมทั้งการผลักดันอย่างต่อเนื่องต่อสภานิติบัญญัติให้ออกกฎหมายให้การเพาะพันธุ์สุนัขเพื่อบริโภคเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในที่สุดเราจะได้เห็นธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขในประเทศเกาหลีใต้ยุติลงอย่างสิ้นเชิง